(20 ส.ค.) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง ได้รับแจ้งเหตุพบคนถูกจับมัดใส่ท้ายรถกระบะอีซูซู ดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ขับไปตามถนนด้วยความเร็ว เหตุเกิดบริเวณหน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง หมู่ที่ 2 ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจุดสกัดต่างๆ ให้ช่วยสกัดจับ
ต่อ มาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทองว่า พบรถคันดังกล่าวกำลังขับด้วยความเร็วจากสามแยกป่างิ้ว มุ่งหน้า อ.โพธิ์ทอง จึงได้ขับไล่ตามไป โดยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยสกัดจับบริเวณด้านหน้า
ระหว่าง ที่ขับไล่ตามกันนั้น ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็บอกให้รถคันดังกล่าวจอด แต่รถคันดังกล่าวก็ไม่จอด และยังคงขับหนีด้วยความเร็ว กระทั่งขับไปถึงบริเวณหน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง แล้วทำท่าจะจอด แต่ก็ยังไม่จอด ขณะนั้นบนถนนมีรถเป็นจำนวนมาก เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงพอดี จึงได้ทำการเรียกให้จอด ที่บริเวณสะพานลอยหน้าวัดศีลขันธาราม หมู่ที่ 6 ต.อ่างแก้ว อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
หลังจากหยุดรถคันดังกล่าวได้พบว่ามีคนถูกมัดอยู่ที่บริเวณ ด้านหลังรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกคนขับลงมา แล้วสอบถามว่า ทำไมจับคนมัดไว้ข้างหลังรถ ระหว่างนั้นเอง นายอดิศักดิ์ ธนะสัณฑ์ อายุ 35 ปี ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า คนที่ถูกมัดไว้หลังรถคือ นายวัชระ อายุ 30 ปี คนร้ายที่เพิ่งก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ซูซุกิ สแมส สีเทา ซึ่งเป็นรถของ นายพิเชษฐ อายุ 64 ปี พ่อตาของตนที่ขับมาซื้อของ แล้วจอดไว้ใต้สะพานลอยนี้ เหตุเพิ่งเกิดเมื่อสักครู่นี้
นายอดิ ศักดิ์ ยังกล่าวว่า ระหว่างที่ตนพร้อมกับภรรยาและเพื่อนกำลังขับรถไปทำธุระในตัวเมืองอ่างทอง ระหว่างที่ขับรถอยู่นั้น นายพิเชษฐ ได้โทรมาบอกว่า รถจักรยานยนต์ถูกคนร้ายขโมยไป คนร้ายขับมุ่งหน้าเข้าเมือง จึงวานให้ตนติดตามช่วยดูให้หน่อย
เมื่อตนมาช่วยพ่อตาดู ก็พบรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยไป อยู่บริเวณหน้า อบจ. ตนจึงได้ขี่รถปาดหน้า จังหวะนั้นรถจักรยานยนต์ล้ม ตนกับเพื่อนจึงได้ลงไปชกต่อยและจับคนร้ายมัดไว้ ก่อนที่จะนำรถจักรยานยนต์และคนร้ายขึ้นท้ายกระบะรถ เพื่อจะนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.โพธิ์ทอง แต่ก็มาถูกกวดตามและเรียกให้จอดดังกล่าว
ทางด้านน นายพิเชษฐ์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกจากบ้านเพื่อมาซื้อของที่ ตลาด และได้ขับรถมาจอดไว้ที่บริเวณใต้สะพานลอยหน้าวัดศีลขันธาราม ก่อนที่จะเดินไปซื้อของ จู่ๆ ก็ได้มีแม่ค้าร้านอาหารวิ่งมาบอกตนว่ารถของตนถูกคนร้ายขับหนีไปแล้ว ตนจึงได้โทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง ให้ทราบ ก่อนจะโทรหาลูกเขยขับตามหา เพราะทราบว่าลูกเขยตนอยู่บริเวณที่คนร้ายขับไป
จาก การสอบสวน นายวัชระ กล่าวว่า ตนมีอาชีพก่อสร้างได้เดินเท้าเปล่ามาจากจังหวัดสิงห์บุรี โดยตนไม่มีเงินค่ารถจะกลับบ้านที่กำแพงเพชร พอมาเห็นรถจักรยานยนต์ที่มีกุญแจคาไว้อยู่ จึงเข้าไปขโมยเพื่อจะกลับบ้าน ตนไม่มีเงินสักบาท กลางคืนก็ต้องนอนบนต้นไม้ เพราะไม่มีเงินเช่าบ้าน
อย่าง ไรก็ตาม ทางด้าน พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง ผกก.สภ.โพธิ์ทอง กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.45 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชาย 1 คน ก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ที่บริเวณใต้สะพานลอยหน้าวัดศีลขันธาราม แล้วขับหลบหนีมุ่งหน้าเข้าเขต อ.เมืองอ่างทอง
ซึ่งหลังจากรับแจ้งตน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยุแจ้งทุกจุดทำการสกัดจับ แต่ก็ยังไม่พบ แต่ก็มีการรับแจ้งให้สกัดรถกระบะว่า มีคนถูกมัดอยู่ท้ายรถ แต่พอสกัดได้ก็ทราบว่าเป็นเหตุเดียวกัน เนื่องจากเจ้าของรถเจอรถของตนเองที่คนร้ายลักไปจึงจับคนร้ายมัดใส่กระบะรถ และกำลังนำส่มางที่โรงพัก